พริกขี้หนูปู่เมธ เบอร์ 1

วงศ์ SOLANACEAE
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ชนิด พริกเผ็ด

ประเภท พืชล้มลุก

ใบ รูปหอก (lanceolate) สีเขียว (green)

ดอก/ช่อดอก ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีขาว อายุการออกดอก 35-40 วันหลังย้ายปลูก (ต้นกล้าอายุ 25-30 วัน)

ผล/ฝัก การติดผลชี้ตั้งขี้น ขนาดผลกว้างประมาณ 0.8 เซนติเมตร ความยาวผล 3.0 เซนติเมตร ความยาวก้านผลประมาณ 2.5 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว ผลแก่เป็นสีแดงเข้ม รูปส่วนบนของผลเป็นรูปมน (obtuse) รูปร่างส่วนปลายผลแหลม (pointed) รูปร่างผลเรียวยาว (elongate) น้ำหนักผลประมาณ 0.52 กรัมต่อผล ความหนาเนื้อน้อยกว่า 0.05 เซนติเมตร จำนวนผลประมาณ 237 ผลต่อต้น  จำนวนเมล็ดประมาณ 33.3 เมล็ดต่อผล

แหล่งที่มา/ประวัติ

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นำเมล็ดพันธุ์มาจากสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2554 เมล็ดพันธุ์นี้นำมาปลูกไว้ ณ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย คณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ทำการคัดเลือกจากประชากรดังกล่าว โดยการคัดเลือกรายต้นได้จำนวน 9 ต้น นำมาปลูก ณ ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาลักษณะทางการเกษตรต่างๆ พร้อมทั้งทำการผสมตัวเอง 1 รอบ ต่อมาในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามมงกุฎราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงคัดเลือกจากประชากรดังกล่าว และได้ทรงคัดเลือกสายพันธุ์ JP 010-5 จากนั้นคณะผู้วิจัยได้นำสายพันธุ์ดังกล่าวปลูกคัดเลือกอีกจำนวน 4 รอบ จนมีลักษณะคงที่ และปลูกศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ ณ ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำการปลูกถวายเพื่อทอดพระเนตรและทรงพระราชทานนามว่า “ปู่เมธเบอร์ 1”

– ระยะเวลาในการปลูกและเก็บผลผลิต
ระยะเวลาในการปลูกใช้เวลา 40-60 วัน
สามารถเก็บผลผลิตได้ในวันที่ 60-70 วันของการปลูก
– สรรพคุณ
ช่วยลดน้ำหนัก, ช่วยให้อารมณ์สดใส, บำรุงสายตา, ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
– ข้อควรระวัง
ในพริกขี้หนูมีสารแคปไซซิน ที่ทำให้เกิดการระคายต่อเนื้อเยื้อ ดังนั้นการทานพริกขี้หนูมากเกินไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื้อในปาก รวมไปถึงระบบทางเดินอาหาร จนทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน อาจทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องเสีย สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะไม่ควรทานพริกหรืออาหารที่เผ็ดมากเกินไป